หากคุณเป็นแฟนบอลที่ชอบดูบอล สถิติเศร้าไม่รู้จบ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ คงต้องเตรียมหัวใจไว้ให้แข็งแรง เพราะการติดตามทีม “ปีศาจแดง” ในยุคหลังเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั้นเต็มไปด้วยความผิดหวังและสถิติที่ชวนให้น้ำตาไหล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลอังกฤษและยุโรป ภายใต้การคุมทัพของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย แชมเปียนส์ลีก 2 สมัย พร้อมถ้วยรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย แต่นับตั้งแต่ตำนานกุนซือชาวสก็อตแขวนนกหวีดในปี 2013 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
สถิติเศร้าไม่รู้จบ แมนยู ผีแดง ตำนานที่กำลังจางหาย
สถิติที่น่าตกใจ
- นับตั้งแต่ปี 2013 แมนยูไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีกอีกเลย
- เคยจบอันดับต่ำสุดที่อันดับ 7 ในฤดูกาล 2013/14
- ในฤดูกาล 2021/22 แมนยูเสียประตูมากถึง 57 ลูก ซึ่งเป็นสถิติการเสียประตูมากที่สุดของทีมในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
- เปอร์เซ็นต์การเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีกลดลงจาก 70% ในยุคเฟอร์กี้ เหลือเพียง 50% ในช่วง 10 ปีหลัง
ปัญหาการเงินและการซื้อนักเตะ
แฟนบอลที่ติดตามดูบอลอย่างใกล้ชิดจะเห็นได้ว่า แมนยูใช้เงินไปมากกว่า 1.4 พันล้านปอนด์ในการซื้อนักเตะนับตั้งแต่ปี 2013 แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับไม่คุ้มค่า นักเตะหลายคนที่ซื้อด้วยค่าตัวแพงกลับไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ตามความคาดหวัง
กรณีตัวอย่างที่ชัดเจน พอล ป็อกบา ย้ายกลับมาด้วยค่าตัวสถิติโลกในตอนนั้น 89 ล้านปอนด์ แต่กลับจากไปแบบฟรีๆ อีกครั้ง อังเคล ดิ มาเรีย ค่าตัว 59.7 ล้านปอนด์ อยู่กับทีมเพียงฤดูกาลเดียว แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กลายเป็นกองหลังที่แพงที่สุดในโลกด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ แต่กลับโดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องฟอร์มการเล่น
ผู้ให้บริการดูบอลออนไลน์อย่าง 99dooball รายงานว่า แม้แมนยูจะยังคงเป็นทีมที่มีคนดูมากที่สุดทีมหนึ่ง แต่จำนวนผู้ชมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอและผลงานที่น่าผิดหวัง
สถิติเศร้าในบอลยุโรป ในศึกแชมเปียนส์ลีก
- นับตั้งแต่ปี 2013 ไม่เคยผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกอีกเลย
- เคยตกรอบแบ่งกลุ่มในปี 2015 และ 2021
- ในฤดูกาล 2022/23 พ่ายแพ้ในยุโรปลีกด้วยผลแพ้รวม 5-2 ต่อเซบีย่า
นักวิเคราะห์จาก 99dooball ให้ความเห็นว่า ปัญหาของแมนยูไม่ได้อยู่ที่การขาดเงินทุน แต่เป็นเรื่องของโครงสร้างการบริหารและการตัดสินใจที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความสัมพันธ์กับคู่ปรับร่วมเมือง สิ่งที่ทำให้แฟนผีแดงเจ็บปวดยิ่งขึ้นคือความสำเร็จของคู่แข่งร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน
- แมนซิตี้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว 7 สมัยนับตั้งแต่ปี 2013
- พวกเขายังคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จในปี 2023
- ช่องว่างของคะแนนระหว่างสองทีมในบางฤดูกาลสูงถึง 30 คะแนน
ผู้ที่ติดตาม ผลบอลสด มาตลอดจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของอำนาจในเมืองแมนเชสเตอร์อย่างชัดเจน จากที่แมนยูเคยเป็นทีมที่ครองความยิ่งใหญ่มาตลอด กลับกลายเป็นแมนซิตี้ที่ก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่น่าเกรงขามในปัจจุบัน
อนาคตที่ไม่แน่นอน
ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงในระดับผู้บริหารและเจ้าของทีม แต่อนาคตของแมนยูยังคงไม่แน่นอน การเข้ามาของเซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ ที่ซื้อหุ้นบางส่วนของทีมจากตระกูลเกลเซอร์ สร้างความหวังให้กับแฟนบอลว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่เส้นทางกลับสู่ความยิ่งใหญ่นั้นยังอีกยาวไกล ในขณะที่คู่แข่งอย่างแมนซิตี้, ลิเวอร์พูล หรืออาร์เซนอลต่างพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ สถิติจาก 99dooball แสดงให้เห็นว่า แม้แฟนบอลแมนยูจะยังคงศรัทธาและติดตามดูบอลของทีมรักอย่างไม่เสื่อมคลาย
บทสรุป”ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ในแง่ของชื่อเสียงและฐานแฟนบอล แต่สถิติในสนามกลับบ่งบอกถึงความตกต่ำที่ยาวนาน การกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งต้องอาศัยการปฏิรูปทั้งระบบ ตั้งแต่ห้องบอร์ดบริหาร โค้ช ไปจนถึงนโยบายการซื้อขายนักเตะ คงต้องเตรียมใจไว้ว่า การกลับไปสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้งอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปี แต่นั่นคือความท้าทายที่แฟนบอลแท้จริงพร้อมจะเผชิญไปด้วยกัน