เควิน เดอ บรอยน์

เควิน เดอ บรอยน์ ข่าวลือแรง อาจเปลี่ยนสีเสื้อ หลังทีมดังยื่นข้อเสนอจริงจัง

วงการฟุตบอลยุโรปสั่นสะเทือนอีกครั้งเมื่อมีรายงานว่า เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ระดับโลกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังพิจารณาข้อเสนอจากทีมชั้นนำในต่างประเทศ หลังจากที่เจ้าตัวอยู่กับทีมเรือใบสีฟ้ามายาวนานกว่า 9 ปี แฟนบอลที่ชื่นชอบการดูบอลคงต้องตกใจกับข่าวนี้ เพราะเดอ บรอยน์ ถือเป็นเสาหลักสำคัญของแมนซิตี้มาโดยตลอด การจากไปของเขาจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า

แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า มีทีมยักษ์ใหญ่จากซาอุดิอาระเบียยื่นข้อเสนอสัญญามูลค่ามหาศาลให้กับกองกลางชาวเบลเยียมวัย 33 ปีรายนี้ โดยเป็นค่าเหนื่อยที่สูงกว่าที่ได้รับอยู่ในปัจจุบันถึง 3 เท่า นับเป็นตัวเลขที่ยากจะปฏิเสธสำหรับนักเตะที่กำลังเข้าสู่ช่วงปลายของอาชีพ

 

เควิน เดอ บรอยน์ ความสำเร็จกับแมนซิตี้และเหตุผลที่อาจทำให้เขาตัดสินใจย้ายทีม

 

ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดอ บรอยน์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว 7 สมัย พร้อมด้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย และถ้วยรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย เขาได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและความสามารถในการจ่ายบอลที่เฉียบคม

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลนี้ เดอ บรอยน์ ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บมากกว่าปกติ ผลบอลสด ทำให้เขาพลาดโอกาสลงสนามหลายนัด ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เขาเริ่มพิจารณาอนาคตของตัวเอง

นอกจากนี้ อายุที่มากขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ เมื่อเข้าสู่วัย 33 ปี โอกาสที่จะได้รับสัญญาฉบับใหม่ที่มีมูลค่าสูงจากสโมสรใหญ่ในยุโรปอาจมีน้อยลง การย้ายไปซาอุดีอาระเบียอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้รับค่าเหนื่อยก้อนโตก่อนแขวนสตั๊ด

 

ผลกระทบต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หากเดอ บรอยน์ ตัดสินใจย้ายทีม

 

หากแมนซิตี้ต้องเสียเดอ บรอยน์ไป นั่นจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับทีม เพราะเขาไม่ใช่แค่เพียงนักเตะที่มีพรสวรรค์เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำในสนามที่คอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย ในแง่ของเกมรุก แมนซิตี้จะขาดนักเตะที่สามารถสร้างโอกาสให้กับทีมได้อย่างมหาศาล จากสถิติล่าสุด เดอ บรอยน์ สร้างโอกาสการยิงประตูให้กับเพื่อนร่วมทีมมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกต่อ 90 นาทีที่ลงเล่น นอกจากนี้ ประสบการณ์และความเป็นผู้นำของเดอ บรอยน์ ในเกมสำคัญๆ ก็เป็นสิ่งที่ทดแทนได้ยาก โดยเฉพาะในรายการใหญ่อย่างแชมเปี้ยนส์ลีก ที่ต้องการนักเตะที่มีความเยือกเย็นและมีประสบการณ์สูง

 

ทีมที่สนใจและข้อเสนอที่น่าตื่นตาตื่นใจ

 

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทีมอัล-นาสเซอร์ อโมริม จากซาอุดีอาระเบีย คือทีมที่ทุ่มงบมหาศาลเพื่อให้ได้ตัวเดอ บรอยน์ไปร่วมทีม โดยเสนอค่าเหนื่อยให้สูงถึง 1.5 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ หรือราวๆ 78 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่เขาได้รับจากแมนซิตี้มากกว่า 3 เท่า

นอกจากค่าเหนื่อยแล้ว ยังมีรายงานว่า อัล-นาสเซอร์ เสนอผลประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น บ้านพักหรู รถยนต์ส่วนตัว เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสำหรับเดินทาง รวมถึงตำแหน่งทูตของสโมสรหลังเกษียณ ซึ่งจะทำให้เขายังคงมีรายได้ที่มั่นคงไปอีกหลายปี

ไม่เพียงแต่อัล-นาสเซอร์เท่านั้น แต่ยังมีทีมจากเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (MLS) ในสหรัฐอเมริกาที่แสดงความสนใจในตัวเดอ บรอยน์ด้วยเช่นกัน โดยเสนอโอกาสในการสร้างแบรนด์ส่วนตัวในตลาดอเมริกาที่กำลังเติบโต

 

ความคิดเห็นของแฟนบอลและผู้เชี่ยวชาญ

 

แฟนบอลแมนซิตี้ส่วนใหญ่แสดงความกังวลอย่างมากกับข่าวนี้ หลายคนที่ติดตามดูบอลมาตลอดหลายปีบอกว่า เดอ บรอยน์ คือหัวใจของทีม และการจากไปของเขาจะทำให้ทีมอ่อนแอลงอย่างมาก อดีตนักเตะระดับตำนานอย่าง ไมเคิล โอเว่น ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทางรายการวิเคราะห์บอลว่า “ถ้าแมนซิตี้เสียเดอ บรอยน์ไป พวกเขาจะต้องหานักเตะอย่างน้อย 2-3 คนมาทดแทน เพราะเขาทำหน้าที่ได้หลากหลายมาก ทั้งสร้างเกมรุก ยิงประตู และเป็นผู้นำในสนาม”

ผู้สื่อข่าวจาก 99dooball เว็บไซต์ข่าวกีฬาชื่อดัง ได้รายงานเพิ่มเติมว่า ทางแมนซิตี้ไม่ยอมปล่อยเดอ บรอยน์ไปง่ายๆ แน่นอน และกำลังเตรียมยื่นข้อเสนอสัญญาใหม่ เพื่อรั้งตัวกองกลางคนสำคัญให้อยู่กับทีมต่อไป แม้จะไม่สามารถแข่งขันเรื่องค่าเหนื่อยกับทีมจากซาอุดีอาระเบียได้ก็ตาม

เดอ บรอยน์ และทางเลือกในอนาคต

สำหรับตัวเดอ บรอยน์เอง การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับแมนซิตี้ และมีความผูกพันกับทีม เพื่อนร่วมทีม และแฟนบอล การย้ายไปเล่นที่ลีกที่มีมาตรฐานต่ำกว่าอย่างซาอุดีอาระเบียอาจส่งผลต่อระดับการเล่นของเขา แต่ในขณะเดียวกัน ข้อเสนอทางการเงินที่ได้รับก็เป็นสิ่งที่ยากจะปฏิเสธ ด้วยอายุที่มากขึ้น และอาการบาดเจ็บที่เริ่มรบกวนบ่อยครั้ง การตัดสินใจย้ายทีมอาจเป็นการวางแผนสำหรับอนาคตหลังเกษียณ

มีรายงานว่า เดอ บรอยน์ กำลังปรึกษากับครอบครัวและทีมที่ปรึกษาอย่างจริงจัง และอาจมีการตัดสินใจในช่วงซัมเมอร์นี้ หากเขาตัดสินใจย้ายทีม นั่นจะเป็นการปิดฉากความยิ่งใหญ่ของเขากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเปิดศักราชใหม่ในอาชีพค้าแข้ง

ดูบอลสด 99DOOBALL